Header

โรคระบบทางเดินอาหาร

blank บทความโดย : ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

โรคในระบบทางเดินอาหาร เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในคนทั่วไป แม้ว่าอาการอาจจะไม่รุนแรง แต่กลับเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คนในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งหากพูดถึงระบบทางเดินอาหารแล้ว เราจะนับไปตั้งแต่เราทานอาหารเข้าไป คือ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก หรืออวัยวะที่ช่วยผลิตน้ำย่อยอย่างเช่น ตับ ถุงน้ำดี เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นหากอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเกิดความผิดปกติ ระบบทางเดินอาหารก็จะเริ่มแสดงออกถึงอาการต่าง ๆ เรามาทำความรู้จักกับโรคในระบบทางเดินอาหารให้มากขึ้นกันนะคะ

สาเหตุของ “โรคระบบทางเดินอาหาร” คืออะไร ?

โรคระบบทางเดินอาหาร เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อยสุดนั้นเกิดจากการติดเชื้อ โดยอาจจะเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะมาจากอาหารเป็นพิษ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ไสติ่งอักเสบ เป็นต้น หากมาจากไวรัสอาจจะมาจากไวรัสตับอักเสบ และสุดท้ายคือโรคจากพยาธิต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นโรคระบบทางเดินอาหารได้จากการเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งหลอดอาหาร เป็นต้น การดื่มสุรา หรือจากพันธุกรรมก็มีส่วนให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้ด้วยเช่นเดียวกัน

 

จะรู้ยังไงว่า… เรากำลังเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร ?

การสังเกตอาการของโรคระบบทางเดินอาหารไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะอาการที่พบได้บ่อยนั้นเป็นอาการที่สามารถสังเกตได้ง่าย เช่น ปวดท้อง เรอบ่อย แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก อุจจาระปนเลือด เหล่านี้เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าระบบทางเดินอาหารของเรากำลังมีปัญหา นอกจากนี้อาจจะมี อาการอื่น ๆ ร่วมด้วยเช่น ตัวเหลือง ซีด น้ำหนักลด เบื่ออาหารร่วมได้ เพราะฉะนั้นหากเรามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการ อย่าปล่อยไว้ แม้ว่าอาการจะหายเองได้ในบางครั้ง แต่โรคระบบทางเดินอาหารสามารถเกิดเป็นอาการที่เรื้อรังได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ลดความเสี่ยง

 

ใครบ้างที่ควรตรวจเช็คระบบทางเดินอาหาร ?

  • บุคคลที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป
  • ผู้ที่มีอาการปวดท้องเรื้อรัง
  • มีความรู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ถ่ายเป็นสีดำหรือมีเลือดปน
  • ถ่ายไม่สุด
  • อาเจียนเป็นเลือด
  • เป็นซีด
  • มีอาการท้องผูกเรื้อรัง
  • คลำพบก้อนในท้อง
  • ท้องผูกสลับท้องเสีย
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้องบ่อย ๆ
  • มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร

 

วิธีการรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร แนวทางรักษาเป็นอย่างไร และต้องป้องกันได้อย่างไร ?

แนวทางการรักษาโรคทางเดินอาหาร คือ การรักษาสาเหตุและการรักษาประคับประคองตามอาการ

  • การรักษาตามสาเหตุ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การให้ยาฆ่าเชื้อราเมื่อโรคเกิดจากติดเชื้อรา การรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบด้วยการผ่าตัดและยาปฏิชีวนะ หรือการรักษาโรคมะเร็งด้วยการผ่าตัด อาจร่วมกับรังสีรักษา ยาเคมีบำบัด หรือยารักษาตรงเป้า
  • การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเมื่อกินไม่ได้หรือในภาวะขาดน้ำจากอาเจียนหรือท้องเสียมาก หรือการให้เลือดเมื่อมีอาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด จนเกิดภาวะซีด
  • การตรวจคัดกรองด้วยวิธีการส่องกล้อง ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ต้องนอนพัก ไม่มีแผลผ่าตัด
    • การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น (Gastroscopy) สามารถตรวจหาความผิดปกติของ หลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น งดน้ำ งดอาหาร 4 ชั่วโมง สามารถทำได้
    • การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) สามารถตรวจหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก   โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย สมาคมทางเดินอาหารประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ต้องเตรียมลำไส้ก่อนการส่องกล้อง สามารถมาตอนเช้า ทำตอนบ่าย

โรคระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยมักจะเกิดจากติดเชื้อ ดังนั้นการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร และการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี จะช่วยป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารได้มาก เช่น การทานอาหาร  ที่ปรุงสุก การทานอาหารที่มีกากใยสูง หรือทานผักผลไม้เป็นประจำ การทานอาหารที่สะอาดถูกหลักอนามัย งดการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ เป็นต้น



แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของการอาบน้ำอุ่นและน้ำเย็น

เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย ทำให้การอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง บางคนชอบอาบน้ำอุ่น บางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น

blank บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ประโยชน์ของการอาบน้ำอุ่นและน้ำเย็น

เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย ทำให้การอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง บางคนชอบอาบน้ำอุ่น บางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น

blank บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“ประจำเดือน” ผิดปกติ สาเหตุของโรคอะไรบ้าง?

“ประจำเดือน” คือเยื่อบุของโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ในปกติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีรอบเดือนทุกๆ 21-35 วัน และแต่ละรอบจะยาวนานราว 2-7 วัน

นพ.บุญชู สถิรลีลา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.บุญชู สถิรลีลา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“ประจำเดือน” ผิดปกติ สาเหตุของโรคอะไรบ้าง?

“ประจำเดือน” คือเยื่อบุของโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ในปกติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีรอบเดือนทุกๆ 21-35 วัน และแต่ละรอบจะยาวนานราว 2-7 วัน

นพ.บุญชู สถิรลีลา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.บุญชู สถิรลีลา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
4 อาหารบำรุงกระดูก หาทานง่าย และทำกินเองได้ที่บ้าน

โดยวันนี้เราจะมาแนะนำ 4 อาหารหลักบำรุงกระดูก ที่สามารถหาทานได้ง่าย และสามารถประกอบอาหารทานที่บ้านได้พร้อมกับครอบครัวอีกด้วย!

4 อาหารบำรุงกระดูก หาทานง่าย และทำกินเองได้ที่บ้าน

โดยวันนี้เราจะมาแนะนำ 4 อาหารหลักบำรุงกระดูก ที่สามารถหาทานได้ง่าย และสามารถประกอบอาหารทานที่บ้านได้พร้อมกับครอบครัวอีกด้วย!