Header

ดื่มน้ำให้ถูกวิธีช่วยน้ำหนักลด สุขภาพผิวดี แถมยังชะลอวัย

blank บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องดื่มเป็นประจำทุกวัน หากขาดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 2-3 วัน ในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร ต่อวัน โดยดื่มทีละน้อย ไม่ดื่มเร็วหรือมากเกินไป ซึ่งการดื่มน้ำมากขึ้น ยังช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักได้ด้วย แล้วมีวิธีการดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ประโยชน์ขนาดนี้มาหาคำตอบกันที่บทความนี้กันได้เลยค่ะ

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

ช่วยให้สุขภาพผิวดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งสดใส ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ทำให้ดวงตาของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ทำให้การไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลในร่างกายให้ผ่อนคลาย สบายใจ น้ำช่วยให้สมองทำงานได้ไวและดียิ่งขึ้น ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก ชะลอความแก่ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ และทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับผิวหนัง แถมยังป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย รู้หรือไม่ว่า น้ำก็คือยาวิเศษดี ๆ นี่เอง ถึงแม้จะไม่เห็นผลทันตาแต่ก็สามารถช่วยรักษา โรคหลาย ๆ ชนิดได้ ช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้ เพราะผู้ป่วยไมเกรนหากร่างกายขาดน้ำหรือได้รับไม่เพียงพอแล้ว อาการปวดหัวอาจจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

ประโยชน์ของการดื่มน้ำช่วยในการย่อยอาหาร เพราะทำให้ระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยป้องกันโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย ผู้ที่ท้องผูก น้ำคือสิ่งจำเป็นอย่างมาก น้ำมีส่วนช่วยในการลด น้ำหนักตัว โดยไปลดความอยากอาหารก่อนการรับประทานอาหารนั่นเอง การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลงได้ ช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติ และมีประสิทธิภาพช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ช่วยรักษาสุขภาพไตให้แข็งแรง


วิธีการดื่มน้ำที่ช่วยน้ำหนักลด สุขภาพผิวดี แถมยังชะลอวัย
  1. ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน

โดยปกติแล้วร่างกายต้องการน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน ขั้นตอนแรก เริ่มจากให้ฝึกตื่นเช้าให้เป็นนิสัย เพราะร่างกายของเรามีนาฬิกาชีวิต อวัยวะต่าง ๆ จะทำงานตามเวลาของมัน ซึ่งเราก็ต้องดื่มน้ำให้สัมพันธ์กับแต่ละช่วงเวลาด้วย เวลา 06.30-07.00 น. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอนตอนเช้าทันที ช่วงนี้เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง หลังจากขาดน้ำมาทั้งคืน การดื่มน้ำในตอนนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

  1. ช่วงสาย ๆ ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว

เวลา 08.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว โดยดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มก่อนกินข้าวแบบทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยมีความเจือจางลง ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ

ถัดมา เวลา 09.00-11.00 น. ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ร่างกายเริ่มทำงานเต็มที่ในช่วงเวลานี้ พอทำงานเต็มที่ก็จะมีของเสียเกิดขึ้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อชำระล้างของเสียเหล่านั้นออกไปจากร่างกาย

  1. ดื่มน้ำก่อนมื้อเที่ยง

เวลา 12.00 น. เที่ยงวัน ให้ดื่มน้ำ 1/2 แก้ว ก่อนรับประทานอาหาร 1 ชม. หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จิบน้ำล้างปากได้เล็กน้อย ไม่ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร

  1. ช่วงบ่าย ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว

เวลา 13.00-16.00 น. ดื่มน้ำ 2 แก้ว ไม่ต้องดื่มน้ำรวดเดียวทั้ง 2 แก้ว แต่ให้ใช้การจิบน้ำระหว่างวันไปเรื่อย ๆ เพื่อดับกระหาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ ยิ่งใครที่นั่งทำงานในห้องแอร์ ผิวจะแห้ง หยาบกระด้างได้ง่าย จึงควรเติมน้ำให้ผิวในช่วงนี้

  1. ดื่มน้ำก่อนมื้อเย็น 1-2 แก้ว

เวลา 17.00-19.00 ช่วงเย็นควรแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย และก่อนจะทานมื้อเย็น ให้ดื่มน้ำก่อนอาหาร 1 ชม. ในปริมาณ 1-2 แก้ว

ถัดมาในช่วงหัวค่ำ เวลา 19.00-21.00 น. ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว โดยใช้การจิบน้ำไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ระบบเลือด ระบบลำไส้ทำงานได้ดี

  1. ก่อนนอน ดื่มน้ำ 1 แก้ว

ในแต่ละวัน ควรเข้านอนเวลา 23.00 น. หรือไม่เกินเที่ยงคืน โดยก่อนจะนอน 1 ชม. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่ไม่ควรดื่มใกล้เวลานอนเกินไป เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก รบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่สนิทได้


การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำจนเป็นนิสัย เพราะการดื่มน้ำนั้นมีประโยชน์ ทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องผิวพรรณ ระบบขับถ่าย และระบบการย่อยอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอวัย หากดื่มน้ำอย่างเหมาะสมเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกต่างหาก หากดื่มน้ำได้ตาม 6 วิธีนี้ สุขภาพดีก็จะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเสริมด้วยผักและผลไม้

 



แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

นอนกรน สัญญาณอันตรายของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

การนอน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสิ่งหนึ่งในชีวิต เพราะทุก ๆ วันเราจะมีการนอน ⅓ ของวัน หรือประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากในช่วงการนอนหลับของเรานั้นไม่มีประสิทธิภาพ หรือมีปัญหา

blank คลินิกโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
นอนกรน สัญญาณอันตรายของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

การนอน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสิ่งหนึ่งในชีวิต เพราะทุก ๆ วันเราจะมีการนอน ⅓ ของวัน หรือประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากในช่วงการนอนหลับของเรานั้นไม่มีประสิทธิภาพ หรือมีปัญหา

blank คลินิกโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram)

เป็นการตรวจเอกซเรย์เต้านมที่ได้รับรังสีปริมาณน้อย เพื่อหาความผิดปกติของเต้านม ได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ในขณะที่ยังไม่แสดงอาการ

เครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram)

เป็นการตรวจเอกซเรย์เต้านมที่ได้รับรังสีปริมาณน้อย เพื่อหาความผิดปกติของเต้านม ได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ในขณะที่ยังไม่แสดงอาการ

โรคปอดที่เกิดจากการทำงาน (Occupational lung disease)

ซิลิโคสิส (Silicosis) เกิดจากการหายใจเอาซิลิการูปผลึก (crystalline silica) เข้าไปในปอด โดยองค์กร International Agency for Research on Cancer (IARC) ได้จัดให้ซิลิกาเป็นสารที่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าก่อมะเร็งปอดในมนุษย์ และผู้ป่วยที่เป็นโรคซิลิโคสิสจะมีความเสี่ยงกับโรควัณโรคมากยิ่งขึ้นด้วย

โรคปอดที่เกิดจากการทำงาน (Occupational lung disease)

ซิลิโคสิส (Silicosis) เกิดจากการหายใจเอาซิลิการูปผลึก (crystalline silica) เข้าไปในปอด โดยองค์กร International Agency for Research on Cancer (IARC) ได้จัดให้ซิลิกาเป็นสารที่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าก่อมะเร็งปอดในมนุษย์ และผู้ป่วยที่เป็นโรคซิลิโคสิสจะมีความเสี่ยงกับโรควัณโรคมากยิ่งขึ้นด้วย