Header

เตรียมพร้อม Back to School new normal style วิถีชีวิตใหม่ในโรงเรียน

นพ.บุญชู อิศราดิสัยกุล โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ นพ.บุญชู อิศราดิสัยกุล

เปิดเทอมมาถึงแล้ว เด็ก ๆ หลายคนต้องไปโรงเรียนในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองจะต้องเตรียมตัวให้เด็ก ๆ ไปเรียนในยุค New normal อย่างไรบ้าง ? มาเตรียมความพร้อมและเตรียมสิ่งของจำเป็นที่ควรพกไปโรงเรียนเพื่อป้องกันการได้รับความเสี่ยงจากการติดเชื้อกัน

  1. ติดตามสถานการณ์ : คอยติดตามสถานการณ์และรับรู้ข่าวสารการระบาดของโรค COVID-19 อยู่เสมอ จะได้ทราบมาตรการจากทางการ และสอนให้ลูกรู้จักโรค COVID-19 เพื่อจะได้ทราบถึงวิธีป้องกันตนเองอย่างถูกต้อง
  2. คัดกรอง : สังเกตอาการป่วยของลูกและหมั่นตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอถ้ามีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ไม่รู้รสหรือกลิ่น ให้รีบแจ้งทางโรงเรียนทันทีและให้หยุดเรียนไว้ก่อน
  3. หน้ากากอนามัย : สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และแนะนำให้พกสำรองไว้ในกระเป๋าอย่างน้อย 1 ชิ้น เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น หน้ากากหล่นพื้น หน้ากากเปื้อนหรือเปียกชื้น โดยในช่วงที่เริ่มมีโควิดสายพันธุ์เดลต้าพลัส คุณหมอแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย  2 ชั้น (ด้านในเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือ Surgical mask และด้านนอกเป็น หน้ากากแบบผ้า)
  4. แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือแบบพกพา : เป็นของที่แนะนำให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะสะดวกและหยิบขึ้นมาใช้เมื่อไรก็ได้ มีให้เลือกใช้ทั้งแบบสเปรย์และแบบเจล เพราะมือของเราเป็นสิ่งที่นำพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด แนะนำให้หมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือที่จะช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้นั้น ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์70% ขึ้นไป
  5. เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว : กระติกน้ำ / แก้วน้ำ / ช้อมส้อมส่วนตัว / ทิชชู,ทิชชูเปียก เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัวให้พร้อม เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
  6. ล้างมือบ่อย ๆ : สอนลูกให้หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสใบหน้า ขยี้ตา หรือแคะจมูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และให้ล้างมือทุกครั้งที่จับบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได และก่อนรับประทานอาหาร โดยล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปอย่างน้อยนาน 20 วินาที และหลังกลับจากโรงเรียนให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
  7. เว้นระยะห่าง : หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร ในการทำกิจกรรมระหว่างเรียน ช่วงพัก และหลังเลิกเรียน เช่น นั่งกินอาหาร ออกกำลังกาย เข้าแถวต่อคิว เป็นต้น
  8. ทำความสะอาด : ปลูกฝังให้หมั่นทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อย ๆ และบริเวณที่ใช้ทำกิจกรรม รวมถึงอุปกรณ์การเรียน เช่น กระเป๋านักเรียน
  9. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง : เตรียมร่างกายลูกให้แข็งแรง กินอาหารครบ 5 หมู่ ที่สุก สะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าลืมเพิ่มพลังด้วยอาหารมื้อเช้าก่อนเข้าเรียน (แนะนำให้รับประทานอาหารเช้าจากบ้าน หากจำเป็นต้องรับประทานที่โรงเรียนแนะนำให้จัดเตรียมเป็น Box set จากบ้านแทนการซื้อที่โรงเรียน)
  10. ความเจ็บป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย : สอนลูกเสมอว่าไม่มีใครอยากป่วย ไม่ควรล้อเลียนความผิดปกติหรืออาการไม่สบายของเพื่อน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความหวาดกลัวเกินเหตุ หรือเกิดการแบ่งแยก กีดกัน หรือตีตราในหมู่นักเรียน ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจ
  11. ฉีดวัคซีน : การได้รับวัคซีนจะทำให้การแพร่กระจายของโรคน้อยลงและสามารถควบคุมการระบาดได้ อีกทั้งในเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจ ยิ่งจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกัน เพราะหากมีการติดเชื้อจะทำให้มีอาการรุนแรงได้
  12. พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ : โควิด-19 ยังไม่ไปไหน เรายังต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตอยู่ตลอด ในยามที่ความไม่แน่นอนมีอยู่ พ่อแม่ควรจะปรับความคิดตัวเองและเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกในการเปิดรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น เช่น เปิดเทอมไปโรงเรียนได้ 2 อาทิตย์ โรงเรียนอาจจะต้องปิด 2 อาทิตย์เนื่องจากมีการระบาด เด็กต้องกลับมาเรียนออนไลน์อีก เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่และเด็กควรเตรียมใจไว้เสมอ จะได้ไม่หงุดหงิด สับสน และไม่ทำให้เด็กตื่นกลัวหรือผิดหวังเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น

การปรับตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในยุค New normal เป็นสิ่งที่สำคัญ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองควรเตรียมความพร้อมเสมอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความไม่แน่นอนยิ่งในช่วงเปิดเทอมที่เด็ก ๆ จะต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนจะต้องมีการสร้างความเข้าใจให้เด็ก ๆ รู้จักการป้องกันตนเองพร้อมสำหรับเปิดเทอม



แพทย์ประจำศูนย์

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

พญ.พริม สุธรรมรติ

กุมารแพทย์

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคถุงลมโป่งพอง โรคร้ายใกล้ตัว

โดยหนึ่งโรคร้ายที่พบบ่อยและเกิดขึ้นจากการได้รับมลพิษ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใกล้ตัว นั่นก็คือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือที่เรามักเรียกกันว่า “โรคถุงลมโป่งพอง”

นพ.อดิศร มนูสาร โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.อดิศร มนูสาร

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โรคถุงลมโป่งพอง โรคร้ายใกล้ตัว

โดยหนึ่งโรคร้ายที่พบบ่อยและเกิดขึ้นจากการได้รับมลพิษ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใกล้ตัว นั่นก็คือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือที่เรามักเรียกกันว่า “โรคถุงลมโป่งพอง”

นพ.อดิศร มนูสาร โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.อดิศร มนูสาร

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยจะมีอุบัติการณ์มากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้นตั้งแต่50ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงเช่น การตรวจพบติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่(colonic polyp), การมีญาติใกล้ชิดเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, โรคลำไส้อักเสบ(inflammatory bowel disease), การทานผักน้อยและทานเนื้อสัตว์จำนวนมาก เป็นต้น

การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยจะมีอุบัติการณ์มากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้นตั้งแต่50ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงเช่น การตรวจพบติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่(colonic polyp), การมีญาติใกล้ชิดเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, โรคลำไส้อักเสบ(inflammatory bowel disease), การทานผักน้อยและทานเนื้อสัตว์จำนวนมาก เป็นต้น

เครื่องตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone mineral density, BMD)

เป็นการตรวจความหนาแน่นของกระดูกโดยใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเอกซเรย์ทั่วไป เพื่อประเมินภาวะกระดูกพรุน

เครื่องตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone mineral density, BMD)

เป็นการตรวจความหนาแน่นของกระดูกโดยใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเอกซเรย์ทั่วไป เพื่อประเมินภาวะกระดูกพรุน