เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับคู่รักที่อยากมีลูก 

คู่รักหลายคู่ที่อยากมีลูก อาจจะมีคำถามหรือข้อชวนสงสัย เกี่ยวกับเรื่องลับ ๆ ฉบับคู่รัก  วันนี้เรามาคลายข้อสงสัย เพื่อช่วยให้ทุกคู่รัก (มีบุตร) และตั้งครรภ์ได้ สมดังความตั้งใจกันครับ 

มีเพศสัมพันธ์ช่วงไหน ท้องได้ง่ายสุด?

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไข่ตก ช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่ไข่จะสุกเต็มที่ และตกลงไปในท่อนำไข่ ซึ่งจะเป็นจุดที่ไข่จะได้พบกับอสุจิ และเกิดการปฏิสนธิกัน และเคลื่อนไปฝังตัวที่บริเวณโพรงมดลูก 

• การตกของไข่จะเกิดขึ้นทุกเดือน แต่เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น หากคู่รักมีการนับวันตกไข่ได้อย่างแม่นยำ และมีเพศสัมพันธ์กันในช่วงเวลานั้นพอดี ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ และมีข่าวดีของลูกน้อยสมดังใจปรารถนา 
• วงจรของการตกไข่ สามารถคำนวณโดยนับวันไข่ตก จะนับประมาณ 14 วัน ก่อนที่ประจำเดือนจะมา แต่การนับวันตกไข่ จะได้ผลแม่นยำเฉพาะผู้หญิงที่ประจำเดือนมาปกติและสม่ำเสมอทุกเดือน เช่น ประจำเดือนมาทุก ๆ 30 วัน    วันตกไข่ก็จะเป็นวันที่ (30-14) = 16 ของรอบเดือน 

ความแม่นยำในการนับวันตกไข่ ควรจดบันทึกการมีประจำเดือน เพื่อคำนวณหาวันตกไข่ และมีเพศสัมพันธ์ในระยะที่ไข่ตก ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ 1-2 วันก่อนไข่ตก อสุจิจะยังสามารถตกค้างอยู่ในมดลูก เพื่อรอไข่ตกได้ประมาณ 2 วัน ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันตกไข่ 1-2 วัน จึงยังคงมีโอกาสที่จะเกิดการปฏิสนธิได้ และควรมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอโดยเฉพาะช่วงตกไข่

อยากมีลูกต้องทำ (การบ้าน) อย่างไร และมีเพศสัมพันธ์ท่าไหน? 

ไม่มีผลการศึกษาแน่ชัด ว่าท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์ มีผลต่ออัตราการตั้งครรภ์ สามารถท้องได้ โดยไม่ต้องอาศัยความแปลกใหม่ของท่าใดๆ 

ขอเพียงเป็นท่าที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจร่วมกัน และทำในช่วงเวลาที่มีการตกไข่ก็เพียงพอแล้ว

ปล่อย (ลึก) แค่ไหนถึงท้อง?  

ไม่มีผลการศึกษาแน่ชัด เพียงแต่ปล่อยภายในช่องคลอด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้

กินอะไรแล้วตั้งท้องง่าย? … อาหาร ที่ทำให้ตั้งครรภ์?

ไม่มีผลการศึกษาแน่ชัดว่า การกินอาหารชนิดใดมากเป็นพิเศษ จะช่วยให้ตั้งครรภ์ได้เร็วขึ้น แต่การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สด สะอาด หลากหลาย จะมีส่วนช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำกัดปริมาณคาเฟอีน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน

อาหารที่แนะนำ ได้แก่

• อาหารที่มีโฟเลต เช่น ผักใบสีเขียวเข้ม แคร์รอต อาโวคาโด ธัญพืชที่ขัดสีน้อย ขนมปังไม่ขัดสี ผักโขม ถั่ว ฟักทอง มะเขือเทศ ตับ ไข่แดง เป็นต้น
• รับประทานถั่ว ธัญพืช เพราะมีโปรตีนสูง และมีธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อร่างกายหญิง

หากกำลังตั้งครรภ์

• รับประทานปลา เพราะมีโปรตีน วิตามินดี และไขมันต่ำ เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน เป็นต้น 
• เพิ่มโปรตีนจากพืชมากกว่าจากเนื้อสัตว์ เช่น เมล็ดถั่ว ถั่วเหลือง หรือ เต้าหู้
• รับประทานอาหารที่มีสังกะสี แมงกานีส และเบต้าแคโรทีน เช่น แคร์รอต ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ และระดับฮอร์โมนเพศโปรเจสเตอโรน
• รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก  

ยาบำรุงมดลูก ยาสตรี สมุนไพร ยาแผนโบราณ ทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นใช่หรือไม่ ?

• ไม่มีผลการศึกษาแน่ชัด และไม่ควรกินอาหาร หรือยาบำรุงใด ๆ ที่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์แน่ชัด เนื่องจากอาจมีสารเคมี หรือ ฮอร์โมน ที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย หรือเกิดมะเร็งในอนาคตได้
• สุขภาพกายและใจ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลให้ร่างกายพร้อมทั้งกายและใจ
• ดูแลเรื่องของน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 
• กินอาหารที่มีประโยชน์ 
• ไม่สูบบุหรี่ 
• ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ 
• ไม่ใช้สารเสพติด 
• ระวังโรคติดต่อ 
• ไม่ออกกำลังกายหนักจนเกินไป 
• ผ่อนคลายความเครียด 

หากเข้าข่าย “ภาวะมีบุตรยาก” ควรทำอย่างไรดี ?

หากพยายามมีบุตรด้วยวิธีตามธรรมชาติเป็นระยะเวลา 1 ปี แล้วยังไม่สามารถมีบุตรได้ จะเรียกว่า “มีบุตรยาก”  ซึ่งมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุของคุณพ่อและคุณแม่ ก็มีส่วนในการตั้งครรภ์ เช่น คุณแม่ที่มีอายุในช่วง 35 ปีขึ้นไปจะมีปัญหาของไข่ทั้งจำนวน ปริมาณ หรือแม้แต่คุณภาพไข่ที่ด้อยลง 

ในด้านคุณพ่อ หากมีอายุที่มากขึ้นประสิทธิภาพของตัวอสุจิ ก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งหากทำด้วยวิธีธรรมชาติ และยังไม่ตั้งครรภ์ ควรมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนในการตั้งครรภ์ 

เพราะหากปล่อยให้เวลานานไป อาจทำให้การตั้งครรภ์มีความเป็นไปได้ยากขึ้น อัตราคู่แต่งงานที่ไม่สามารถมีบุตรได้มีถึง 12 เปอร์เซ็นต์ 

ดังนั้นหากคู่รักคู่ไหนที่มีความพร้อม และตั้งใจจะมีบุตร ควรจูงมือกันไปหาคุณหมอ เพื่อปรึกษาเรื่องการมีบุตรและวางแผนครอบครัวกันตั้งแต่เนิ่น ไม่ควรปล่อยระยะเวลาทิ้งไว้ 

โดยแพทย์เฉพาะทาง จะสามารถให้คำปรึกษา วางแผนอย่างละเอียดในแต่ละรายไป  เพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่และทารก ที่จะเกิดขึ้นมาได้สมบูรณ์และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต  

บทความโดย :  นพ.นพเมศฐ์ ศรีจารุสิทธิ์  สูตินรีแพทย์ (มะเร็งวิทยานรีเวช)

แผนกสุขภาพสตรี  โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

หากคุณต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา

สามารถติดต่อสอบถามเราได้

Call Center 02-080-5999 หรือ LINE : @psuv

หรือ คลิกที่นี่เพื่อ Add Line ของเรา