ออฟฟิศซินโดรม (OFFICE SYNDROME )

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร

• กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial pain syndrome)
• อาการปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น (Tendinitis)
• อาการปวด ชา จากปลายประสาท ที่ถูกกดทับ

ปัจจัยที่ทำให้เกิด

• ท่าทางการทำงาน (Posture)
• การบาดเจ็บจากงานซ้ำๆหรือทำงานต่อเนื่องนาน
• สิ่งแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม

อาการที่พบบ่อย

1. กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial)

• โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า สะบัก
• อาจมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติร่วมด้วย เช่น วูบ เหงื่อออก ตาพร่า หูอื้อ มึนงง ชา เป็นต้น

2. การอักเสบของเส้นเอ็น

• บริเวณข้อศอก ข้อมือ นิ้วมือ เช่น
• การอักเสบของเอ็นโคนนิ้วโป้ง (De Quervain’s disease)
• นิ้วล็อก (trigger finger)

3. การกดทับปลายประสาท  (nerve entrapment) ทำให้เกิดอาการชารวมถึงอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ถ้าเป็นรุนแรง เช่น

• พังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ (carpal tunnel syndrome)
• พังผืดทับเส้นประสาทบริเวณข้อศอก (cubital tunnel syndrome)
   

การป้องกันและแก้ไข

• การปรับท่าทางในการทำงานให้ถูกต้อง
• การปรับสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ในการท างานที่เหมาะสม
• การออกกำลังยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สิ่งแวดล้อมในการทำงานให้ เหมาะสมแล้ว ยังมีอาการปวดรุนแรงอยู่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสม

การปรับท่าทางในการทำงานให้ถูกต้อง

• นั่งหลังตรง ฝ่าเท้าสองข้างแนบสนิทกับพื้น
• ไหล่ผ่อนคลาย ศอก สะโพก และเข่างอประมาณ 90 องศา
• ข้อมือควรอยู่ในท่าตรงไม่กระดก หรืองอมากเกินไป
• ในระหว่างทำงานควรมีการยืดกล้ามเนื้อหรือเปลี่ยนอริรยาบถ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและพักสายตาอย่างน้อยทุก ๆ 1 ชั่วโมง

การปรับสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ในการทำงานที่เหมาะสม

• มีที่รองข้อมือ
• แป้นพิมพ์อยู่ระดับข้อศอกหรือ โต๊ะควรมีลิ้นชักแยกไว้วางคีย์บอร์ด
• จอคอมพิวเตอร์ขอบบนจออยู่ระดับสายตา หรือต่ำกว่าเล็กน้อย
• เก้าอี้มั่นคง มีพนักพิง ปรับระดับสูงต่ำได้

การออกกำลังยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อที่มักพบปัญหาตึงบ่อย ได้แก่

• กล้ามเนื้อต้นคอ
• กล้ามเนื้อบ่า
• กล้ามเนื้อสะบัก

การรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม

• การยืดกล้ามเนื้อที่ถูกวิธีด้วยตัวเอง
• การรักษาด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด เช่น Ultrasound, HIGH power LASER, Heat
• การนวดแผนไทย
• การฝังเข็ม
• การรับประทานยา