Header

มะเร็งตับ (Liver Cancer)

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

มะเร็งตับ | โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

มะเร็งตับคืออะไร

มะเร็งตับระยะเริ่มต้น เกิดจากการที่เซลล์มะเร็งก่อตัวขึ้นในเนื้อเยื่อของตับ ส่วนมะเร็งที่เกิดขึ้นที่ส่วนอื่นๆ และเติบโตจนแพร่กระจายมายังตับนั้น ไม่เรียกว่ามะเร็งตับระยะแรก ซึ่งหน้าที่หลักของตับมีดังนี้

  • สร้างน้ำดีเพื่อช่วยย่อยไขมัน

  • กักเก็บไกลโคเจน (น้ำตาล) ที่ร่างกายใช้เป็นพลังงาน

  • กรองสารอันตรายออกจากเลือดเพื่อขับออกจากร่างกายทางอุจจาระและปัสสาวะ

 

ประเภทของมะเร็งตับ

มะเร็งตับแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ

ชนิดปฐมภูมิ

มะเร็งของเซลล์ตับ (hepatocellular carcinoma :HCC) และมะเร็งท่อน้ำดี

ชนิดทุติยภูมิ

เป็นมะเร็งที่กระจายมาจากตำแหน่งอื่นๆของร่างกาย โดยมากจะมาจากอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ลำไส้ใหญ่

 

ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะมะเร็งตับชนิด hepatocellular carcinoma :HCC เนื่องจากเป็นโรคที่มีความสำคัญและพบบ่อย

 

อาการของมะเร็งตับ จะแบ่งเป็น 4 ระยะ

 

ระยะที่1 (Early) และ ระยะที่ 2 (Intermediate) บางครั้งจะไม่แสดงอาการใด ๆ หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดท้อง ท้องอืดบ้าง ทำให้ผู้ป่วยสับสนคิดว่าเป็นโรคกระเพาะอาหาร

ระยะที่ 3 (Advanced) และระยะที่ 4 (Terminal) อาการของตับมีปัญหา เช่น อาการตัวเหลือง ตาเหลือง มีภาวะท้องมานน้ำ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน

 

สัญญาณและอาการของมะเร็งตับ

อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการเกิดจากมะเร็งตับระยะปฐมภูมิ 

  • ก้อนแข็งทางด้านขวาใต้ซี่โครง

  • รู้สึกไม่สบายในช่องท้องส่วนบนทางด้านขวา

  • ท้องบวม

  • ปวดบริเวณสะบักขวาหรือหลัง

  • ดีซ่าน (ผิวเหลืองและตาขาว)

  • ช้ำหรือมีเลือดออกง่าย

  • เหนื่อยล้าหรือความอ่อนแอผิดปกติ

  • คลื่นไส้และอาเจียน

  • เบื่ออยากอาหาร

  • การลดน้ำหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • ปัสสาวะสีเข้ม

  • มีไข้

 

สาเหตุของโรคมะเร็งตับ

ไวรัสตับอักเสบบีหรือซีซึ่งส่งผลให้เกิดการติดเชื้อระยะยาว (เรื้อรัง) อาจทำให้เกิดมะเร็งตับได้

และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับได้เช่นกัน

  1. โรคไขมันพอกตับหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม รวมถึงภาวะฮีโมโครมาโตซิส หรือการขาดสารอัลฟ่า 1-แอนติทริปซิน 

  2. เบาหวานประเภท 2

  3. โรคตับอักเสบบีหรือซี

  4. บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  5. โรคอ้วน

  6. สูบบุหรี่

  7. การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด

 

การวินิจฉัยโรคมะเร็งตับ

การทดสอบเพื่อวินิจฉัยทั้งมะเร็งตับและมะเร็งตับทุติยภูมิ ได้แก่

  • การตรวจเลือด

การตรวจเลือดสามารถตรวจสารเคมีบางชนิดที่เรียกว่าตัวบ่งชี้มะเร็ง

  • อัลตราซาวนด์

วิธีการที่ใช้กันมากที่สุดในการค้นหามะเร็งตับระยะแรก คืออัลตราซาวนด์เพื่อแสดงขนาดและตำแหน่งของเนื้อเยื่อผิดปกติในตับได้ 

  • ซีทีสแกน

การสแกน CT จะสร้างภาพสามมิติของอวัยวะต่างๆ พร้อมกัน และสามารถช่วยให้แพทย์วางแผนการ  ผ่าตัดได้ นอกจากนี้ยังสามารถดูได้ว่ามะเร็งแพร่กระจายหรือไม่ 

  • เอ็มอาร์ไอ

การสแกนด้วย MRI สามารถแสดงขอบเขตของเนื้องอกและส่งผลต่อหลอดเลือดหลักรอบๆ ตับ 

  • การสแกน PET-CT

โดยทั่วไปมักใช้สำหรับมะเร็งทุติยภูมิในตับ การสแกน PET-CT จะสร้างภาพสีสามมิติที่แสดงว่ามะเร็งอยู่ที่ไหนในร่างกาย 

  • การตรวจชิ้นเนื้อ

การตัดชิ้นเนื้อคือการเอาเนื้อเยื่อจำนวนเล็กน้อยออกเพื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ 

 

การรักษาโรคมะเร็งตับ

การรักษามะเร็งตับขั้นปฐมภูมิที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การผ่าตัดทำลายเนื้องอกและเคมีบำบัดที่ส่งตรงไปยังมะเร็ง 

การรักษาที่พบบ่อยที่สุดสำหรับมะเร็งทุติยภูมิในตับคือเคมีบำบัดหรือการผสมผสานระหว่างการผ่าตัดและเคมีบำบัด 

  • การผ่าตัด

การผ่าตัดคือการนำตับบางส่วนออก หรือการปลูกถ่ายตับ โดยตับทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยตับของผู้บริจาค 

การผ่าตัดเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งตับในระยะเริ่มต้น โดยจะขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และตำแหน่งของเนื้องอก 

  • การผ่าตัดทำลายเนื้องอก

การผ่าตัดทำลายเนื้องอกมักใช้กับมะเร็งตับระยะเริ่มต้น บำบัดด้วยการใช้คลื่นวิทยุและไมโครเวฟเพื่อให้ความร้อนและทำลายเซลล์มะเร็ง

  • เคมีบำบัด

อาจมีการจ่ายยาเคมีบำบัดเพื่อฆ่า ลดขนาด หรือชะลอการเติบโตของเนื้องอก ขึ้นอยู่กับประเภทของมะเร็งตับที่เป็น

  • การบำบัดทางชีวภาพ

การรักษาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเซลล์มะเร็งโดยการหยุดการเติบโตหรือการทำงานของเซลล์มะเร็ง หรือโดยการช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์มะเร็ง

  • การบำบัดด้วยการฉายรังสีภายในแบบเลือกสรร (SIRT)

การรักษานี้เรียกอีกอย่างว่าการอุดหลอดเลือดด้วยรังสี โดยมุ่งเป้าไปที่เนื้องอกในตับโดยตรงด้วยการฉายรังสีภายในในปริมาณสูงในรูปแบบเม็ดบีดขนาดเล็ก

  • การใส่ขดลวดส่องกล้อง

หากมะเร็งในตับไปอุดตันท่อน้ำดี อาจแนะนำให้ใส่ขดลวด (ท่อบาง) ในตับเพื่อระบายน้ำดีและบรรเทาอาการ 

  • การดูแลแบบประคับประคอง

การดูแลแบบประคับประคองมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณโดยการบรรเทาอาการของโรคมะเร็ง



แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตรวจโควิดแบบ ATK กับ RT-PCR ต่างกันอย่างไร ตรวจแบบไหนดี

ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ค่อนข้างหลากหลาย โดยวิธีที่คุ้นหูและรู้จักกัน จะเป็นการตรวจแบบเร่งด่วน Antigen Test Kit (ATK) และแบบ RT-PCR (Real Time PCR)

blank บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ตรวจโควิดแบบ ATK กับ RT-PCR ต่างกันอย่างไร ตรวจแบบไหนดี

ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ค่อนข้างหลากหลาย โดยวิธีที่คุ้นหูและรู้จักกัน จะเป็นการตรวจแบบเร่งด่วน Antigen Test Kit (ATK) และแบบ RT-PCR (Real Time PCR)

blank บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (Herniated disc)

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท คือการเสื่อมสภาพของเส้นสันหลัง ซึ่งอาจเกิดจาก การเสื่อมสภาพ การบาดเจ็บ การขยายตัวของเส้นสันหลัง เเละสภาพพันธุกรรม หรือปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า ซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด

นพ.ปรัชญ์ พิพัฒน์วัฒนา โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ นพ.ปรัชญ์ พิพัฒน์วัฒนา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (Herniated disc)

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท คือการเสื่อมสภาพของเส้นสันหลัง ซึ่งอาจเกิดจาก การเสื่อมสภาพ การบาดเจ็บ การขยายตัวของเส้นสันหลัง เเละสภาพพันธุกรรม หรือปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า ซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด

นพ.ปรัชญ์ พิพัฒน์วัฒนา โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ นพ.ปรัชญ์ พิพัฒน์วัฒนา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“ประจำเดือน” ผิดปกติ สาเหตุของโรคอะไรบ้าง?

“ประจำเดือน” คือเยื่อบุของโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ในปกติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีรอบเดือนทุกๆ 21-35 วัน และแต่ละรอบจะยาวนานราว 2-7 วัน

นพ.บุญชู สถิรลีลา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.บุญชู สถิรลีลา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“ประจำเดือน” ผิดปกติ สาเหตุของโรคอะไรบ้าง?

“ประจำเดือน” คือเยื่อบุของโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ในปกติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีรอบเดือนทุกๆ 21-35 วัน และแต่ละรอบจะยาวนานราว 2-7 วัน

นพ.บุญชู สถิรลีลา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.บุญชู สถิรลีลา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม